เครื่องพิมพ์ UV และเครื่องพิมพ์หมึกทั่วไปมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้:
1. เทคโนโลยีการพิมพ์
– เครื่องพิมพ์ UV : ใช้หมึกที่ถูกเคลือบแข็งด้วยการฉายรังสี UV (Ultraviolet) ทำให้หมึกแห้งทันทีเมื่อถูกพิมพ์ลงบนวัสดุ ส่งผลให้ภาพหรือข้อความที่พิมพ์มีความคมชัดและติดแน่นบนพื้นผิวต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นกระจก โลหะ หรือพลาสติก
– เครื่องพิมพ์หมึกทั่วไป : ใช้หมึกที่แห้งด้วยการระเหยหรือการซึมเข้าไปในวัสดุ เช่น เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet) ใช้หมึกที่ซึมลงในกระดาษ และหมึกจะค่อยๆ แห้งเมื่อเวลาผ่านไป
2. วัสดุที่ใช้พิมพ์
– เครื่องพิมพ์ UV : สามารถพิมพ์ลงบนวัสดุที่หลากหลาย ทั้งกระดาษ พลาสติก โลหะ ไม้ กระจก และวัสดุที่ไม่ซับน้ำอื่นๆ
– เครื่องพิมพ์หมึกทั่วไป : มักใช้กับกระดาษเป็นหลัก และมีข้อจำกัดในการพิมพ์บนวัสดุอื่นๆ เนื่องจากหมึกอาจไม่ติดทนนานหรือไม่สามารถซึมลงในวัสดุได้
3. คุณภาพและความทนทานของงานพิมพ์
– เครื่องพิมพ์ UV : งานพิมพ์มีความคมชัดสูง ทนทานต่อรอยขีดข่วน น้ำ และแสงแดด หมึกไม่ซีดจางง่าย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคงทน เช่น ป้ายโฆษณากลางแจ้ง
– เครื่องพิมพ์หมึกทั่วไป : งานพิมพ์อาจไม่ทนทานเท่ากับพิมพ์ UV โดยเฉพาะเมื่อถูกน้ำหรือแสงแดดโดยตรง ซึ่งอาจทำให้หมึกซีดจางหรือเกิดรอยเลอะได้
4. ต้นทุนการพิมพ์
– เครื่องพิมพ์ UV : ต้นทุนหมึกและเครื่องอาจสูงกว่า แต่สามารถพิมพ์บนวัสดุที่หลากหลายและให้คุณภาพที่สูงกว่า
– เครื่องพิมพ์หมึกทั่วไป : มีต้นทุนที่ต่ำกว่า เหมาะสำหรับงานพิมพ์ทั่วไปในบ้านหรือสำนักงาน เช่น เอกสาร ภาพถ่าย
5. การดูแลรักษา
– เครื่องพิมพ์ UV : ต้องการการดูแลรักษาที่ซับซ้อนกว่า เนื่องจากการใช้งานหมึก UV และการทำงานของระบบรังสี UV
– เครื่องพิมพ์หมึกทั่วไป : ดูแลรักษาง่ายกว่า โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์สำหรับใช้งานทั่วไป
การเลือกใช้เครื่องพิมพ์ชนิดใดขึ้นอยู่กับความต้องการของงานพิมพ์และงบประมาณที่มี