ปัญหาน้ำท่วมขังในประเทศไทย เป็นอะไรที่คนรักรถแบบเราไม่อยากจะเจอมากที่สุด! เพราะถ้าเครื่องดับไป บอกได้เลยว่าซ่อมยาว ดังนั้นเราจึงเสาะหาวิธีรับมือเมื่อรถของคุณต้องพบเจอกับน้ำท่วมมากฝากกัน แต่! ไม่ใช่วิธีการรับมือแบบทั่วไป เพราะเราได้เจาะลึก ลงไปถึงรายละเอียดของน้ำแต่ระดับว่าต้องทำแบบไหนรถของคุณถึงจะปลอดภัย ดังนั้นไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าว่าจะมันมีรายละเอียดในการรับมืออย่างไร ?

- ระดับน้ำไม่เกิน 20 เซนติเมตร
ในน้ำระดับนี้ ไม่ส่งผลเสียต่อรถของคุณ แต่อาจจะต้องระมัดระวังในการขับขี่ ไม่ให้น้ำกระเด็นไปโดนคนอื่นก็พอ
- ระดับน้ำ 20-40 เซนติเมตร
หากน้ำขึ้นสูงในระดับนี้ อันดับแรกคุณต้องปิดแอร์เสียก่อน และค่อยๆ ขับให้พ้นจากพื้นที่ที่น้ำขัง โดนอาจจะเบี่ยงเลนไปยังเลนที่น้ำไม่ลึกมาก แต่สำหรับรถกระบะหรือรถบรรทุกอาจจะไม่ค่อยมีปัญหากับน้ำในระดับนี้เท่านัก
- ระดับน้ำ 40-60 เซนติเมตร
ระดับความสูงของน้ำนี้ เป็นอันตรายต่อรถเก๋งเป็นอย่างมาก โดยให้คุณปิดแอร์ ขับรถให้เบามากที่สุด อย่าเร่งเครื่อง ค่อยๆ ไป ควรย้ำเบรกหรือครัชเพื่อเป็นการไล่น้ำในเบื้องต้น
- ระดับน้ำ เกินกว่า 60 เซนติเมตร
ถ้าระดับน้ำสูงขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะหรือรถบรรทุก ก็คงจะไม่สามารถขับผ่านไปได้ แต่ถ้าไม่มีทางเลือกให้คุณทำตามขั้นตอนด้านบน แต่! ถ้าเมื่อไหร่ที่เครื่องดับ ห้าม! สตาร์ทรถใหม่อย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเครื่องยนต์น็อคยาวอย่างแน่นอน

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการรับมือเมื่อเจอน้ำท่วม เรารับรองเลยว่าถ้าคุณได้นำไปปฏิบัติตาม รถยนต์แสนรักของคุณจะปลอดภัย 100% และหลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมไปแล้ว ก็อย่าลืมมองหาโอกาสในการสร้างรายได้เสริมกับทาง Adhub ที่จะช่วยให้คุณนั้นได้จับเงินหมื่น! เพียงแค่คุณมีรถยนต์คู่ใจและลงทะเบียนรับสิทธิในการติดสติ๊กเกอร์ กับทาง Adhub ก็รับไปเลยค่าน้ำมันต่อเดือนฟรีๆ ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องลงแรง ก็มีเงินไปใช้ได้ง่ายๆ!
ลงทะเบียนรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : Inbox
#Adhub
#หารายได้เสริม
#ปัญหารถดับเพราะน้ำท่วม